หนึ่งในปัญหาหนักอกของผู้ใช้ Excel คือ เมื่อข้อมูลที่บันทึกไว้หรือ copy มาใช้ต่อมีจำนวนรายการเพิ่มขึ้น จะสร้างสูตรอย่างไรดีหรือหาทางแก้ไขที่ตารางข้อมูลแทน เพื่อทำให้สูตรที่สร้างไว้สามารถคำนวณต่อไปได้โดยไม่ต้องแก้ไขสูตรใหม่อีกเลย
สูตร VLookup, Match, Index หรือสูตรใดก็ตามซึ่งใช้หาค่าคำตอบที่ต้องการมาจากตารางฐานข้อมูลจะไร้ค่าทันทีหากข้อมูลที่ต้องการหาถูกบันทึกเพิ่มต่อท้ายรายการเดิม ทำให้ไม่อยู่ใน range ที่กำหนดไว้ในสูตร เช่น =VLookup(Code,DataRange,3,0) ซึ่งใช้หารายละเอียดของรหัส Code ที่ต้องการจากตารางที่ตั้งชื่อว่า DataRange ย่อมจำกัดขอบเขตของการค้นหารหัสจากพื้นที่ในขอบเขต DataRange ที่กำหนดไว้เท่านั้น หรือ =CountA(DataRange) ก็ย่อมนับจำนวนเซลล์ที่มีข้อมูลในขอบเขตตารางที่ตั้งชื่อไว้ว่า DataRange ซึ่งโดยทั่วไปหากต้องการทำให้สูตรหาค่าจากตารางที่มีขนาดขยายตามปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นสามารถใช้วิธีต่อไปนี้
การเลือกใช้วิธีใดนั้นขึ้นกับเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น เป็นแฟ้มที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เองคนเดียวหรือไม่ หากมีเพื่อนร่วมใช้ด้วยเขามีพื้นฐาน Excel มากน้อยเพียงใด มีการย้อนไปแก้ไขข้อมูลหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างตารางบ่อยไหม เครื่องคอมพิวเตอร์มีความเร็วมากน้อยขนาดไหน สูตรที่จำเป็นต้องอ้างอิงแบบ dynamic range มีมากน้อยกี่เซลล์ ในอนาคตอีกนานไหมที่ขนาดตารางข้อมูลจะเพิ่มขึ้นจนทำให้สูตรทำงานช้าลงจนรอไม่ไหวหรือไม่ หรือถ้าแบ่งแฟ้มข้อมูลเป็นแฟ้มย่อยๆได้แล้วใช้คำสั่ง Change Sources ช่วยอาจไม่จำเป็นต้องใช้สูตรแบบ dynamic range เลยก็ได้
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะใช้วิธีข้างต้นวิธีใดจะสามารถทำให้สูตรลิงค์ทำงานได้ตามเมื่อมีจำนวนรายการเพิ่มขึ้น แต่ถ้าในตารางต้นทางมีสูตรคำนวณปนอยู่ในแต่ละรายการ ผู้ใช้ Excel ยังต้องรับภาระในการ copy สูตรจากเซลล์บรรทัดบนลงไปในบรรทัดที่ insert เพิ่มอยู่ดี
ตั้งแต่ Excel 2003 มีคำสั่ง Data > List และต่อมาได้ปรับปรุงใน Excel 2007 เป็นต้นมาเปลี่ยนไปเป็นคำสั่ง Insert > Table (ต่างจากคำสั่ง Data > What-if Analysis > Data Table) โดยตารางที่กำหนดให้เป็น Table นี้จะส่งผลต่อเนื่องไปยัง Pivot Table หรือสูตรใดๆที่อ้างอิงกับพื้นที่ในตารางให้เพิ่มลดตำแหน่งอ้างอิงตามขนาดของข้อมูลที่บันทึกเพิ่มให้เองโดยอัตโนมัติ อีกทั้งหากมีรายการที่เป็นสูตรคำนวณก็จะ copy สูตรต่อลงไปยังรายการที่บันทึกเพิ่มให้เองทันที แต่มีข้อแม้ที่สำคัญว่าตารางที่จะนำมาใช้แบบ Table นี้ต้องเป็นตารางที่มีโครงสร้างแบบฐานข้อมูลที่ดีก่อนเท่านั้น ต่างจากวิธีข้างต้นซึ่งสามารถนำมาใช้กับตารางที่มีโครงสร้างแบบใดก็ได้