แม้คนไทยอ่านหนังสือเป็นกันแทบทุกคนแต่พบว่าคนไทยอ่านหนังสือน้อยมาก ในปีหนึ่งอ่านกันไม่กี่บรรทัด เมื่ออยากจะเรียนรู้หรือหาคำตอบที่ตนสงสัย แทนที่จะใช้เวลาค้นคว้าหาหนังสือที่มีเรื่องราวถูกต้องมาอ่าน กลับชอบดูทีวีหรือฟังวิทยุ หรืออ่านข้อความสั้นๆบนมือถือที่เขียนส่งกันมาตามภาษาพูด จนทำให้คนไทยรุ่นใหม่เขียนหนังสือเรียบเรียงใจความไม่เป็น มักนำภาษาพูดมาใช้เป็นภาษาเขียน คำพูดใดที่คนชอบใช้กันแล้วตัวเองคิดว่าเท่ก็มักนิยมพูดตามกัน โดยเฉพาะคำว่า จริงๆแล้ว ที่จริงแล้ว อันที่จริง พูดตามตรง หรือข้อเท็จจริง ที่มักยกมาพูดนำคำพูดประโยคอื่น เช่น จริงๆแล้ว ผมได้ทำอะไรต่ออะไรในวันนี้ เป็นต้น
ใครที่พูดคำว่าจริงๆแล้ว ที่จริงแล้ว อันที่จริง หรือพูดตามตรง หมายความว่า จากนี้ไปจะพูดความจริงแล้วนะ เรื่องที่เพิ่งบอกไปเมื่อสักครู่มันไม่ใช่ความจริง(Truth)ทั้งหมดหรอกนะ ดังนั้นถ้านำคำเหล่านี้มาพูดอย่างไม่เหมาะสม ย่อมแสดงว่าเป็นคนชอบพูดโกหกหรือบอกอะไรๆที่ไม่ชัดเจนอยู่เสมอ จึงควรเลิกใช้คำเหล่านี้ดีกว่าหรือเปลี่ยนไปใช้คำอื่นแทน เช่น ตามที่พบเห็นมา ตามที่ได้ยินมา ตามเนื้อหา ตามหลักการว่าอย่างไร จะเหมาะสมกว่า
ส่วนคำว่าข้อเท็จจริง(Fact) มักถูกใช้เพื่อหลอกให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นความจริงหรือพูดเลี่ยงว่าตนไม่ได้โกหกหรอกนะ เพราะคำว่าข้อเท็จจริงแสดงว่ามีทั้งเท็จทั้งจริงปะปนกันอยู่ คนที่ชอบใช้คำว่าข้อเท็จจริงต้องอธิบายต่อให้ชัดเจนว่าอะไรคือเท็จอะไรคือจริงด้วย
ความจริงความเท็จในตารางฐานข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก ตารางฐานข้อมูลต้องมีเฉพาะข้อมูลที่เป็นความจริงเท่านั้นทั้งตัวข้อมูล ช่องว่าง สถานะของข้อมูล ลำดับรายการ ความมีอยู่ของข้อมูล และสิ่งที่แสดงให้เห็น